การละเล่นขี่ม้าส่งเมือง
การละเล่นชนิดนี้ไม่กำหนดจำนวน แต่ถ้าจำนวนน้อยเกินไปการเล่นก็ไม่สนุก หรือถ้ามาก การจะแพ้หรือชนะก็กินเวลานาน การละเล่นพื้นบ้านชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ชาย เพราะฝ่ายชนะจะต้องขึ้นขี่หลังฝ่ายแพ้ สถานที่สำหรับเล่นไม่จำกัดความกว้างยาว สุดแต่ผู้เล่นมากหรือน้อยเป็นปริมาณ
วิธีเล่น
ขั้นที่ 1 จะต้องเลือกผู้หนึ่งผู้ใดที่พอไว้วางใจได้คนหนึ่งเป็นกลางสำหรับเป็นกรรมการ แล้วแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่ายเท่า ๆ กัน ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายกระซิบ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายทาย แล้วให้ทั้งสอง 2 ฝ่าย แยกไปยืนอยู่ฝ่ายละด้านของสถานที่ ส่วนคนกลางยืนอยู่ระหว่างกลางห่างพวกพวกทั้ง 2 มีระยะเท่ากัน
ในฝ่ายหนึ่ง ๆ ให้ผู้เล่นตกลงกันเลือกหัวหน้าขึ้นคนหนึ่ง หัวหน้าต้องเป็นผู้ที่ฉลาดและไหวพริบดี รู้จักทายให้ผู้อื่นถูกกว่าผิด และเป็นผู้ที่รูกจักชื่อสิ่งต่าง ๆ แปลก ๆ
ขั้นที่ 2 คนกลางเรียกหัวหน้าทั้งสองฝ่ายซึ่งได้ตั้งแล้ว นั้นมาโยนหัวโยนก้อย ฝ่ายใดโยนหัวก้อยได้ตามที่ตกลงกัน ฝ่ายชนะได้เป็นผู้กระซิบก่อน อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายทาย คนกลางจะต้องให้หัวหน้า 2 ฝ่าย นั้นตกลงกันเสียก่อนว่าจะกระซิบเรื่องอะไร เช่น นามจังหวัด นามดอกไม้ นามนก นามขนม ฯลฯ นามใดนามหนึ่ง ในที่นี้สมมติว่าหัวหน้าตกลงกันว่าจะกระซิบ นามจังหวัดในประเทศไทย หัวหน้าก็กลับไปบอกพวกของตนตามที่ได้ตกลงกันไว้
ขั้นที่ 3 กระซิบ คือ ฝ่ายที่ชนะ การโยนหัวโยนก้อยให้คนใดคนหนึ่ง พวกของตนวิ่งมากระซิบนามจังหวัดแก่คนกลาง สมมติว่าฝ่ายกระซิบไว้ กระซิบว่า "จังหวัดนครปฐม" แก่คนกลาง คนกลางต้องพิจารณาว่า นามจังหวัดนั้นเป็นการถูกต้องกับหัวหน้าได้ตกลงกันไว้ และจะมีปัญหาโต้เถียงกันหรือไม่ โดยเฉพาะข้อสมมตินี้ถูกต้อง และไม่มีปัญหาก็สั่งให้คนกระซิบกลับที่ได้
ขั้นที่ 4 ให้ฝ่ายทาย ส่งผู้เล่นมาคนหนึ่งวิ่งมาถามคนกลางว่า นามจังหวัด ที่ฝ่ายโน้นมากระซิบไว้เป็นนามจังหวัด.. (ระบุนามจังหวัด) ใช่หรือไม่? ถ้าผิดคนกลางก็บอกว่าไม่ใช่แล้วให้ผู้เล่นนั้นวิ่งกลับไปที่ คนอื่นจึงวิ่งมาทายใหม่ ผลัดกันมาทายทีละคน ๆ จนหมดคน ถ้าสมมติว่าฝ่ายทาย ๆ ว่า "จังหวัดนครปฐม" คนกลางก็ต้องร้องดัง ๆ ว่า ถูกแล้ว เป็นอันว่าฝ่ายทายเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าฝ่ายทายได้ทายจนทั่วคน แล้วไม่ถูกเลยเป็นอันว่าฝ่ายกระซิบเป็นผู้ชนะ
ขั้นที่ 5 ถ้าฝ่ายใดแพ้จะต้องถูกปรับโดยไม่รับฝ่ายชนะให้ขึ้นขี่หลังมาจนถึงที่เดิมของฝ่ายชนะนับว่าเป็นเสร็จวิธีเล่น แต่ถ้าผู้เล่นยังสมัครใจจะเล่นต่อไปก็ดำเนินการอย่างที่กล่าวมาแล้วตั้งต้นเล่นกันใหม่
ตามที่แนะนำมาแล้ว นี้เป็นวิธีเล่นอย่างธรรมดา ถ้าผู้เล่นจะพลิกแพลงเชิงเล่นต่อไปอีกก็ได้ เช่น ข้อกำหนดวิธีทายจะให้ทายคนละ 2 เที่ยว หรือ 3 เที่ยว ก็ได้ หรือให้ทายจนครบคนแล้วไม่ถูกเลยจะเปลี่ยนให้คนทายส่งคนใดคนหนึ่งมากระซิบบ้าง และฝ่ายกระซิบในครั้งแรกเปลี่ยนตัวกันออกมาทาย ถ้าผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะฝ่ายละครั้งนับว่าเสมอกันแต่ถ้าแพ้ถึง 2 ครั้ง ติดต่อกันจึงนับว่าแพ้ก็ได้ดังนี้ เป็นต้น
ข้อควรระวัง
1. ฝ่ายกระซิบจะต้องตกลงระหว่างกันเองเสียก่อนว่าจะกระซิบอะไร เพื่อให้รู้กันในระหว่างพวกของตน
2. ฝ่ายทายจะต้องตกลงระหว่างพวกกันเองว่าจะทายว่าอะไรเพื่อมิให้ทายซ้ำกัน เพราะตามธรรมดาคนหนึ่งทายได้เที่ยวเดียวในการเล่นคราวหนึ่ง
3. คนกลางต้องระวังอย่าให้ผู้เล่นฝ่ายที่ทายแล้ว กลับออกมาทายอีกในคราวเดียวกัน เว้นแต่ตกลงให้ผู้เล่นออกมาทายได้มากกว่า 1 เที่ยวขึ้นไป
ประโยชน์
เพื่อฝึกหัดให้ผู้เล่นฉลาดและมีไหวพริบ รู้จักคิดทายใจผู้อื่น รู้จักคิดค้นหาชื่อสิ่งของต่าง ๆ แปลก ๆ รู้จักเลือกคนให้เหมาะแก่หน้าที่ รู้จักรักษาระเบียบวินัย
อ้างอิงจาก : กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ศึกษาการละเล่นพื้นบ้านต่าง ๆ ได้ที่ : บทความทั่วไป