1. ออกกำลังที่ช่วยให้ได้ยืดหยุ่น

          เมื่ออายุมากขึ้น การไหลเวียนเลือดในร่างกายก็เสื่อมประสิทธิภาพลงเช่นกัน เนื่องจากหลอดเลือดจะมีความยืดหยุ่นน้อยลง แปรผกผันกับอายุของเรา ทำให้เลือดและออกซิเจนกระจายไปตามเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างลำบากมากขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณแลดูไม่เปล่งปลั่งสดใส และเหี่ยวตามวัยอย่างฉุดไม่อยู่ ที่สำคัญยังอาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงอีกด้วยนะคะ 

          ทว่าสำหรับคนที่ออกกำลังกาย ปัญหาความยืดหยุ่นของหลอดเลือดก็จะไม่ค่อยมี เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดคล่องตัวมากขึ้น ช่วยให้เกิดการสูบฉีดเลือดดีขึ้น หลอดเลือดก็เหมือนได้ฟิตเฟิร์มตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งการออกกำลังกายที่ช่วยให้เกิดความยืดหนุ่น รวมทั้งช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดก็คือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ และพิลาทิส

2. เล่นเวท

          สตรองไว้ก็ดูเด็กลงไปอีกหลายปี ยิ่งถ้าเล่นเวทจนได้กล้ามเนื้อสวย ๆ มาครอบครองด้วยแล้ว เชื่อเถอะค่ะว่าหลายคนจะเดาอายุคุณไม่ได้ง่าย ๆ เลย เพราะหากเรามีกล้ามเนื้อที่ฟิตเฟิร์มพร้อมใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ร่างกายเราก็จะมีความกระฉับกระเฉงไปด้วยในตัว หมดปัญหาทำอะไรชักช้า ดูงุ่มง่าม อย่างที่คนสูงวัยมักจะเป็นกัน ดังนั้นใครอยากเรียกคืนความกระฉับกระเฉงให้ตัวเอง เรามาเล่นเวทกันเถอะค่ะ แนะนำด้วยว่าควรเลือกยกเวทที่มีน้ำหนักเบา แต่ยกเร็ว ๆ หลายครั้งหลายเซต แบบนี้จะดีกว่ายกเวทที่หนัก และยกแบบช้า ๆ ซึ่งอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจนเรารู้สึกท้อได้

3. เดินออกกำลังกาย+สปรินต์

          สัญลักษณ์ของความสูงอายุ แลดูแก่ คือลักษณะท่าทางที่ดีเลย์ไปซะหมด ไม่ว่าจะการเดิน การย่างก้าวลงรถ หรือการขึ้น-ลงบันได ซึ่งหากไม่อยากไปถึงจุดนั้น แนะนำให้อัพสปีดตัวเองกันอยู่เสมอด้วยการเดินออกกำลังกาย และระหว่างที่เดินก็สปรินต์ (วิ่งเร็ว ๆ) ประมาณ 10 วินาที เดิน-สปรินต์ สลับกันอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ช่วยได้ทั้งหัวใจ การสูบฉีดเลือด และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกาย จะขยับไปไหน ทำอะไรก็คล่องตัวไม่ต่างจากวัยเด็ก

4. แอโรบิกหรือคาร์ดิโอ

          อยากดูอ่อนกว่าวัยแลดูสดใสดั่งวัยแรกแย้มอยู่เสมอก็ต้องบอกตัวเองว่าห้ามอ้วนเด็ดขาดค่ะ เพราะนอกจากความอ้วนจะนำพาโรคเรื้อรังมาสู่ร่างกายแล้ว การที่อ้วนขึ้นก็ทำให้ดูแก่ลงไปหลายปีเลยทีเดียวนะคะ ฉะนั้นนอกจากจะควบคุมอาหาร ลดเนื้อสัตว์ติดมัน ลดการรับประทานแป้งขัดขาวและน้ำตาล ก็ควรต้องแอโรบิกหรือคาร์ดิโออย่างการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ เพื่อเป็นการเบิร์นไขมันส่วนเกิน รวมทั้งกระตุ้นระบบเผาผลาญที่เมื่ออายุมากขึ้นก็มักจะเกเรไปด้วยพร้อม ๆ กัน     

          ที่สำคัญการแอโรบิกยังเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความจำ ลับสมองของเราให้เฉียบคมอยู่เสมอ ยืนยันได้จากผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Sport Medicine ปี 2014 ที่บอกว่า การออกกำลังแบบแอโรบิกเป็นประจำจะช่วยเพิ่มขนาดฮิปโปแคมปัส สมองส่วนที่เชื่อมต่อกับความทรงจำได้ด้วย

5. แพลงก์

          ท่าแพลงก์ท่าเดียวก็ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพได้ล้านแปด ยกตัวอย่างเช่น ช่วยลดหน้าท้อง ช่วยแก้อาการปวดหลัง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ช่วยปรับบุคลิกภาพ และช่วยสร้างความสมดุลให้การทรงตัว ซึ่งด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เราจะไม่ทำท่าแพลงก์กันก็คงไม่ได้แล้วล่ะค่ะ โดยเฉพาะคนที่อยากดูเด็ก อยากดูเฟรช อยากมีบุคลิกภาพที่ไม่ใกล้เคียงคำว่าแก่ ก็แพลงก์กันทุกวันไปเลย

6. รำไท่เก๊ก

          ศาสตร์ของการออกกำลังกายแบบชาวจีนที่เน้นการฝึกลมปราณและสมาธิไปพร้อม ๆ กัน ถือเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องออกแรงมาก แต่ได้ผลทั้งกับทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะในเรื่องการปรับสมดุลภายในร่างกาย ลดความเครียด คลายความวิตกกังวล และเพิ่มสติให้กับเราได้ด้วย ซึ่งการที่เราไม่เครียด และมีจิตใจที่แจ่มใสอยู่เสมอ เราก็จะมีชีวิตชีวา และแน่นอนว่าความสดใสนี้จะเปล่งประกายออกมาทางร่างกาย แค่นี้ก็ช่วยลดอายุลงไปได้พอประมาณแล้ว

บทความคุณภาพจาก https://health.kapook.com