ข้อมูล ประวัติทีมฟุตบอล รายชื่อนักเตะปี2014 ทีมบราซิล brazil

ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ติดตามข่าว ข้อมูล การแข่งขัน ตารางการแข่งขันบอลโลก ทีมที่เข้าแข่งขัน
ร่วมเชียร์ติดตาม
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
tc_botun
Hero Member
Hero Member
โพสต์: 523
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 19, 2014 10:25 am

ข้อมูล ประวัติทีมฟุตบอล รายชื่อนักเตะปี2014 ทีมบราซิล brazil

โพสต์ โดย tc_botun »

ข้อมูล ประวัติทีมฟุตบอล รายชื่อนักเตะปี2014 ทีมบราซิล brazil
บราซิล.jpg
ก่อตั้งสมาคม : ปี ค.ศ 1914
เข้าร่วมฟีฟ่า : ปี ค.ศ 1923
เข้าร่วมฟุตบอลโลก 19 ครั้ง : 1930, 1934, 1938, 1950, 1954, 1958, 1962, 1966,1970, 1974, 1978, 1982, 1986, 1990, 1994, 1998, 2002, 2006,2010
แชมป์โลก 5 ครั้ง : 1958, 1962, 1970, 1994, 2002
รองแชมป์ 2 ครั้ง : 1950, 1998
ได้อันดับ 3 สองครั้ง : 1938, 1978
แชมป์ระดับทวีป โคปา อเมริกา 8 ครั้ง : 1919, 1922, 1949, 1989, 1997, 1999, 2004, 2007
แพน อเมริกัน คัพ 4 ครั้ง : 1963, 1975ร่วมกับ เม็กซิโก, 1979, 1987

รหัสประเทศของฟีฟ่า : BRA
ชื่อทางการ : รีพับลิคา เฟดเดอราติ วา โด บราซิล
ทวีป : อเมริกาใต้, เมืองหลวง : บราซิเลีย
เมืองสำคัญ : รีโอเดจาเนโร, เซาเปาลู, เบโล โอรีซอนตี, ซัลวาดอร์
สกุลเงิน : เรียล (Real)
ภาษาราชการ : ปอร์ตุกีส

ฟุตบอลบราซิลแบ่งตามยุคต่างๆ

- ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
หากจะแบ่งยุดสมัยของลูกหนังบราซิลคงต้องเริ่มกันก่อนที่ช่วงก่อนสงคราม ทีมชาติบราซิลก่อตัวขึ้นในปี 1914 ซึ่งถือว่าช้ากว่าหลายๆประเทศในยุโรปเป็นทศวรรษ
บราซิลลงเตะเกมแรกกับเอกเซเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ บราซิลชนะ 2-0 และในระยะแรกๆ ไม่สามารถระดมผู้เล่นทีดีที่สุดมาเตะในนามทีมบราซิล
ได้เนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งภายใน ทั้งในฟุตบอลโลก 1930 และ 1938 บราซิลตกรอบแรก จนในฟุตบอลโลก 1938 ทีมบราซิลจึงส่อสัญญาณว่าจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์
บราซิลจบการแข่งขันด้วยอับดับ 3 และ เลโอนิดาส กลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักเตะคนแรกที่ยิง 4 ประตูในเกมฟุตบอลโลก บราซิลได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 1950
ซึ่งเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และนั้นเป็นครั้งเดียวที่บราซิลได้จัดฟุตบอลโลก จวบจนปัจจุบัน การแข่งขันในปี 1950
มีคุณลักษณะพิเศษไม่เหมือนครั้งไหนตรงที่ไม่มีนัดชิงชนะเลิศ โดยเมื่อเหลือ 4 ทีมสุดท้ายให้เตะแบบพบกันหมด อย่างไรก็ดี นัดระหว่างบราซิล กับ อุรุกวัย
คือนัดชิงชนะเลิศกลายๆ การแข่งขันมีขึ้นที่ สนามมาราคาน่า ใน ริโอ เดย จาเนโร ซึ่งว่ากันว่ามีผู้ชมแออัดถึง 2 แสนคน บราซิลต้องการเพียงผลเสมอเพื่อชัยชนะ แต่ก็แพ้ 1-2
หลังขึ้นนำก่อน 1-0 และเกมนั้นก็ถูกอ้างอิงในชื่อ “มาราคานาโซ่” จนถึงทุกวันนี้

ทีมบราซิลเปลี่ยนนักเตะใหม่เกือบยกชุดสำหรับฟุตบอลโลก 1954 ราวกับเพื่อตั้งใจจะลืมความพ่ายแพ้ที่มาราคาน่าให้สิ้น แต่พวกเขาก็ยังมีนักเตะดีๆมากมายอยู่ดี
และนั้นรวมถึง นิลตัน ซานโตส, จัลม่า ซานโตส และ ดีดี้ ทว่าบราซิลไปไม่ไกลนัก รอบควอเตอร์ไฟนัล ขุนพลแม็กยาร์เอาชนะบราซิล 4-2
ในเกมที่ถูกบันทึกว่าเป็นนัดน่าอดสูในประวัติศาสตร์ 4 ปีต่อมา วิเซนเต้ เฟโอล่า ใช้มาตรการเข้มควบคุมนักเตะแซมบ้าชุดฟุตบอลโลก 1958 ซึ่งเตะกันที่ สวีเดน
นักเตะจะได้รับลิสต์สิ่งต้องห้าม 40 ประการ ที่เฟโอล่าต้องการ ซึ่งรวมถึงการสวมหมวกหรือถือร่ม, สูบบุหรี่ขณะสวมชุดทางการของทีม
และพูดคุยกับนักข่าวเดินเวลาที่กำหนด พวกเขาเป็นทีมเดียวในขณะนั้น ที่นำจิตแพทย์มาดูแลนักเตะ เพราะนักเตะบางคนฟุตบอลโลก 1950 ยังตามหลอกหลอนพวกเขาอยู่
นอกจากนั้นยังมีทันตแพทย์คอยดูแลสุขภาพฟันของพวกเขาโดยเฉพาะ เนื่องจากนักเตะบราซิลส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน จึงไม่ได้ดูแลฟันมาตั้งแต่เด็ก
ที่ยิ่งไปกว่านั้น 1 ปีก่อนหน้าฟุตบอลโลกจะเริ่มต้นขึ้น บราซิลยังได้ส่งตัวแทนไปยุโรป เพื่อสอดแนมว่าที่คู่แข่งในเกมรอบคันเลือกด้วย บราซิล
ถูกจับไปอยู่ในกลุ่มสุดโหด มีทั้งอังกฤษ, สหภาพโซเวียต และ ออสเตรีย เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม พวกเขาประเดิมด้วยการถล่มออสเตรีย 3-0 จากนั้นเสมออังกฤษแบบไม่มีสกอร์
ที่บราซิลกังวลก็เหลือแต่ทีมหมีขาว ซึ่งฟิตเต็มพิกัดและยังเป็นเต็ง 1 ของรายการอิกด้วย บราซิลปรับกลยุทธ์มาเป็นการจู่โจมตั้งแต่ต้น เพื่อจะยิงประตูโซเวียตให้ได้เร็วที่สุด
ก่อนการแข่งขัน เบลลินี่, นิลตัน ซานโตส และดีดี้ แกนนำของทีมเข้าไปคุยกับเฟโอล่า และเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยผู้เล่น 3 คน
ซึ่งถือว่าสำคัญต่อทีมอย่างยิ่ง ซิโต้, การ์รินช่า และเปเล่ ออกสตาร์ตเกมกับโซเวียตให้กับบราซิล ผลบราซิลชนะ 2-0 จากนั้น เปเล่ ยิงประตูโทนให้ทีมในรอบควอเตอร์ไฟนัล
ก่อนที่ทีมแซมบ้าจะเอาชนะฝรั่งเศษ 5-2 ในรอบเซมิไฟนัล และเมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศ บราซิลก็ชนะเจ้าภาพสวีเดน 5-2 ทีมบราซิลได้เฉลิมฉลองกับเกียรติยศแชมป์โลกสมัยแรก
ทั้งยังกลายเป็นชาติแรกที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกนอกทวีปตัวเอง

- ยุคเปเล่ 1958-1970
จากยุคตั้งไข่ ฟุตบอลบราซิลเข้าสู่ “ยุคเปเล่” ในช่วงปี 1958 – 1970 โดยปี 1962 บราซิล ได้แชมป์สมัยที่ 2 การ์รินช่า เป็นดารานำ โดยเฉพาะหลังจากที่ เปเล่ ได้รับบาดเจ็บในเกมที่สอง
และไม่สามารถเล่นฟุตบอลโลกตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เหลือได้ ฟุตบอลโลก 1966 การเตรียมทีมของทีมชาติบราซิลได้รับผลกระทบจากเรื่องวุ่นวายทางการเมือง
สโมสรใหญ่ๆต่างกดดันจะให้นักเตะของตนอยู่ในทีมชาติด้วย ช่วงเดือนท้ายๆของการเตรียมทีม วิเซนเต้ เฟโอล่า มีตัวเลือกถึง 46 คน แต่ตั๋วสู่อังกฤษมีแค่ 22 คน
ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในทีม ผลที่ตามมาคือบราซิลมีผลงานที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก บราซิลได้แชมป์โลกสมัยที่ 3 ในอิกสี่ปีต่อมาที่เม็กซิโกด้วยทีมที่ว่ากันว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมี
ทีมแซมบ้าชุดนั้นมีเปเล่ ที่มาลุยฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้าย, คาร์ลอส อัลแบร์โต้, แจร์ซินโญ่, ทอสเทา, แกร์สัน และ ริเวลิโน หลังจากที่ได้ถ้วย ชูลส์ ริเม่ต์ ไปชื่นชมเป็นครั้งที่ 3
บราซิลได้สิทธิ์ในการครอบครองถ้วยแชมป์บอลโลกใบแรกเป็นการถาวร

- ยุคไร้บัลลังก์ 1974-1990
หลังจากการอำลาของ เปเล่ และดาราคนอื่นๆ บราซิลไม่อาจต้านทานความครบเครื่องของฮอลแลนค์ ต้นตำหรับ “โททัล ฟุตบอล” ได้ ทั้งไม่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกของตนในฟุตบอลโลก 1974
ได้เพียงอับดับ 4 เท่านั้น ฟุตบอลโลก 1978 ขึ้นชื่อเรื่องความขัดแย้ง ในรอบแบ่งกลุ่มรอบสอง บราซิลต้องแก่งแย่งกับอาร์เจนตินา เจ้าภาพและคู่อริร่วมทวีป เพื่อชิงจ่าฝูงและตีตั๋วเข้าสู่นัดชิงในเกมสุดท้าย
ของกลุ่ม บราซิลเอาชนะโปแลนค์ 3-1 ขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่มโดยมีผลต่างประตูได้เสีย +5 ขณะที่ผลต่างประตูได้เสียของอาร์เจนตินา +2 แต่ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม ทีมอาร์เจนตินาสามารถเอาชนะเปรู 6-0
ทำให้ลอยลำเข้าชิงชนะเลิศ ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ไม่เพียง รามอน กวีโรก้า นายทวารเปรูจะเกิดในอาร์เจนตินา แต่ยังเสียไปเพียง 6 ประตูใน 5 นัด ก่อนหน้านั้น
แต่ทั้งสองทีมปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ และด้วยความที่บราซิลไม่แพ้ใครเลยตลอดทัวร์นาเมนต์ ชาวแซมบ้ามากมายพากันคิดเอาเองว่าพวกเขาคือแชมป์โลกตัวจริงในครั้งนั้น
ฟุตบอลโลก 1982 โลกได้เห็นบราซิลที่เล่นได้สวยงามอิกครั้งด้วยพรสวรรค์ของ ซิโก้, ฟัลเกา, และโซคราเตส ทีมแซมบ้าอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ เทเล ซานตาน่า
หนึ่งในยอดโค้ชตลอดกาลของบราซิล พวกเขาเป็นแชมป์กลุ่มในรอบแรก ก่อนเอาชนะอาร์เจนตินา 3-1 ในเกมแรกของรอบสอง ดันไปแพ้อิตาลี 2-3 ในเกมที่ติดอันดับแมตช์คลาสสิกตลอดกาลของรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก
ทีมบราซิลก็ถึงคราอวสานด้วย 3 ประตูของ เปาโล รอสซี่ 4 ปีให้หลังในปี 1986 เทเล ซานตาน่า และลูกทีมหลายๆคนจากชุดฟุตบอลโลก 1982 กลับไปเยือนเม็กซิโกอิกหน นักเตะในทีมมีอายุมากขึ้น
และไม่สามารถเริงระบำในลีลาแซมบ้าได้เหมือนครั้งก่อน บราซิลตกรอบจากการดวนจุดโทษพ่ายฝรั่งเศษในเกมที่ถูกจัดเข้าทำเนียบมหาแมตช์อิกเช่นกัน ฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี
บราซิลอยู่ภายใต้การคุมทีมของ เซบาสเตียโอ ลาซาโรนี่ ซึ่งมีชื่อเสียงไม่มากนักก่อนการแข่งขัน ด้วยการทำทีมเน้นเกมรับ สัญลักษณ์ของบราซิลยุคลาซาโรนี่จึงเป็นดุงก้า
นี้คือบราซิลชุดไร้จินตนาการอีกชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์

- ยุค 1994-ปัจจุบัน
ฟุตบอลโลก 1994 หรือ 24 ปีให้หลังจากการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 บราซิลสามารถคว้าเกียรติยศสูงสุดนี้ได้อิกครั้ง บทสรุปของฟุตบอลโลก 1994 ลงเอยที่การชิงชัยกับอิตาลี
ถ้าใครชนะในเกมนี้จะได้แชมป์สมัยที่ 4 ซึ่งก่อนแข่งเป็นแชมป์คนละ 3 สมัยเท่ากัน หลังการต่อเวลาเกมอันน่าเบื่อลงเอยที่ 0-0
บราซิลและอิตาลีจึงต้องวัดกันด้วยการยิงจุดโทษเป็นครั้งแรกในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลก ที่สุดแล้วบราซิลก็คว้าแชมป์หลัง โรแบร์โต้ บาจโจ ยิงจุดโทษเหินข้ามคาน
4 ปีต่อมา ฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศษ บราซิลจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการเข้าชิงเหมือนเดิม ทว่า ได้แค่รองแชมป์ โดยพ่ายให้กับเจ้าภาพฝรั่งเศษ
ในนัดชิงที่ขุนพลแซมบ้ามีปัญหาก่อนแข่งขันอันเนื่องมาจากอาการป่วยกะทันหันของ โลนัลโด้ ไม่มี่ชั่วโมงก่อนลงสนาม กุนซือของทีมในตอนนั้นคือ มาริโอ ซากัลโล่
ผู้สร้างสถิติคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 3 สมัยแบบต่างกรรมต่างวาระ เริ่มจากฐานะนักเตะในปี 1958, 1962 เป็นโค้ชในปี 1970 และผู้ช่วยโค้ชในปี 1994
ฟุตบอลโลก 2002 บราซิลเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่ 5 ฉบับเอเชีย ซึ่งนัดชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่างสองมหาอำนาจลูกหนังต่างขั่วแห่งวงการฟุตบอล คือเยอรมันกับบราซิล
ให้น่าประหลาดใจไม่น้อยที่ตลอด 16 ครั้งที่ผ่านมา ทั้งสองทีมไม่เคยพบกันเลยในฟุตบอลโลก และลงท้ายก็เป็นทีมแซมบ้าที่ฟ้าลิขิตให้ครองแชมป์สมัยที่ 5 อย่างยิงใหญ่
เสียงร้องตะโกนจากแฟนบอลบราซิเลียนที่ว่า “เปนต้าคัมเปเอา” หรือ “แชมป์สมัยที่ 5” ซึ่งดังตั้งแต่ก่อนแข่ง ยิ่งกระหึ่มขึ้นหลังการแข่งขันจบลง พวกเขาราวกับจะประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่า
จะไม่มีชาติใดที่สามารถเทียบรัศมีกับดินแดนที่พระเจ้าประทานพรให้เป็น 1 ในเชิงลูกหนังได้ ฟุตบอลโลก 2006 ที่ เยอรมัน บราซิลไร้บัลลังก์อิกครั้งหนึ่ง บราซิลเป็นเต็ง 1
และได้รับการคาดหมายว่าจะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่6มากที่สุด เพราะในทีมมีดาราเต็มทีมไปหมด ไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, โรบินโญ่ หรือ อาเดรียโน่
แต่ในที่สุดก็ไปไม่ถึงดวงดาว เพราแพ้ฝรั่งเศษคู่ปรับเก่า 0-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ชาวบราซิเลียนเองก็เหมือนจะรู้ตัวดี พวกเขาไม่เบื่อกับการตั้งความหวัง ว่าทีมจะกลับสู่มาตุภูมิพร้อมกับแชมป์โลกครั้งใหม่
ไม่ว่าฟุตบอลโลกครั้งนั้นๆจะเตะกันที่ไหนก็ตาม ในฐานะทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีแฟนบอลมากที่สุดในโลก

รายชื่อนักเตะทีมชาติบราซิล ฟุตบอลโลก 2014
ทีมปี 2014.jpg
ผู้รักษาประตู : ชูลิโอ เซซาร์ (โตรอนโต เอฟซี), เจฟเฟอร์สัน (โบตาโฟโก), บิคตอร์ (แอตเลติโก มิเนโร)

กองหลัง : มาร์เซโล (เรอัล มาดริด), ดานีอัลเวส (บาร์เซโลนา), ไมคอน (อาแอส โรมา), แม็กซ์เวลล์ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), ติอาโก ซิลวา (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง),
ดาวิด หลุยซ์ (เชลซี), ดันเต (บาเยิร์น มิวนิค), เอ็นริเก (นาโปลี)

กองกลาง : เปาลินโญ (ทอตแนม ฮอทสเปอร์ ), รามิเรส (เชลซี ), ออสการ์ (เชลซี), วิลเลียน (เชลซี), แอร์นาเนส (อินเตอร์ มิลาน), หลุยซ์ กุสตาโว (โวล์ฟสบวร์ก),
แฟร์นานดินโญ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

กองหน้า : แบร์นาร์ด (ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค), เนย์มาร์ (บาร์เซโลนา ), เฟร็ด (ฟลูมิเนนเซ), โช (แอตเลติโก มิเนโร), ฮัลค์ (เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก).
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง