footballเป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นระหว่างสองทีมโดยแต่ละทีมมีตำเเหน่งกีฬาฟุตบอล โดยใช้ลูกบอล เป็นที่ยอมรับ อย่างแพร่หลายว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก โดยจะเล่นในสนามหญ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ สนามหญ้าเทียม โดยมีประตูอยู่กึ่งกลางที่ปลายสนามทั้งสองฝั่ง เป้าหมายคือ ทำคะแนนโดยพาลูกฟุตบอลให้เข้าไปยังประตูของฝ่ายตรงข้าม ในการเล่นทั่วไป ผู้รักษาประตูจะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถ ใช้มือหรือแขนกับลูกฟุตบอลได้ ส่วนผู้เล่นอื่นๆจะใช้เท้าในการเตะลูกฟุตบอลไปยังตำแหน่งที่ต้องการ บางครั้งอาจใช้ลำตัว หรือ ศีรษะ เพื่อสกัดลูกฟุตบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศ โดยทีมที่พาลูกฟุตบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ถ้าคะแนนเท่ากัน ให้ถือว่าเสมอ แต่ในบางเกมที่เสมอกันในช่วงเวลาปกติแล้วต้องการหาผู้ชนะจึงต้องมีการต่อเวลาพิเศษ และ/หรือยิงลูกโทษขึ้นอยู่กับ กฎระเบียบของรายการแข่งขันนั้นๆโดยกฎกติกาการเล่นสมัยใหม่จะถูกรวบรวมขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในปีพ.ศ. 2406 ได้กำเนิดLaws of the Gameเพื่อเป็นแนวทางกติกาการเล่นในปัจจุบัน ฟุตบอลในระดับนานาชาติจะถูกวางระเบียบโดยฟีฟ่า ซึ่งรายการแข่งขันที่มีเกียรติ สูงสุดในระดับนานาชาติคือการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี

ตลาดซื้อขายนักเตะ (อังกฤษ: transfer window) เป็นช่วงเวลาระหว่างปีที่สโมสรฟุตบอลสามารถโอนย้ายผู้เล่นจากทีมอื่น ๆ มาเป็นผู้เล่นของทีมตัวเองได้ การโอนย้ายดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อลงทะเบียนผู้เล่นเข้าสู่สโมสรใหม่ผ่านฟีฟ่า ซึ่งคำว่า "ตลาดซื้อขายนักเตะ" เป็นคำไม่เป็นทางการที่ใช้กันทั่วไปโดยสื่อสำหรับแนวคิดของ "ระยะเวลาการลงทะเบียน" ตามที่อธิบายไว้ในกฎระเบียบฟีฟ่า ว่าด้วยสถานะและการโอนย้ายผู้เล่น ตามกฎสมาคมฟุตบอลแต่ละประเทศจะเป็นผู้กำหนดเวลา (เช่นวันที่) ของตลาดซื้อขาย แต่ต้องไม่เกิน 12 สัปดาห์ ระยะเวลาของการลงทะเบียนครั้งที่สองจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลแข่งขัน และต้องไม่เกินสี่สัปดาห์
ตลาดซื้อขายถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองต่อการเจรจากับคณะกรรมาธิการยุโรป ระบบนี้ถูกนำมาใช้ในหลาย ๆ ลีกยุโรป ก่อนที่จะถูกนำมาบังคับใช้โดยฟีฟ่าในช่วงฤดูกาล 2002–03 โดยฟุตบอลอังกฤษเป็นผู้ริเริ่มแผนนี้ และได้นำเสนอในช่วงต้นปี ค.ศ. 1990 ด้วยความหวังว่าจะช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของทีมและป้องกันตัวแทนจากการค้นหาข้อตกลงตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามกฎระเบียบที่แน่นอนและข้อยกเว้นที่เป็นไปได้นั้น กำหนดขึ้นโดยหน่วยงานที่กำกับดูแลการแข่งขันแต่ละครั้งแทนที่จะเป็นโดยสมาคมฟุตบอล
ตารางเวลาปัจจุบันและข้อยกเว้น
ในกฎระเบียบฟีฟ่าระบุว่า โดยทั่วจะต้องมีตลาดซื้อขายสองช่วง ระยะยาวช่วงนึง (สูงสุดสิบสองสัปดาห์) ในช่วงพักระหว่างฤดูกาล และ ระยะสั้นช่วงนึง (สูงสุดหนึ่งเดือน) ในช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งระยะเวลาเฉพาะขึ้นอยู่กับรอบฤดูกาลของลีกที่กำหนดโดยหน่วยงานฟุตบอลของประเทศนั้น ๆ
ลีกยุโรปที่สำคัญส่วนใหญ่มักเริ่มฤดูกาลในครึ่งหลังของปี (เช่น เดือนสิงหาคมหรือกันยายน) และแข่งขันตลอดสองปีปฏิทินไปจนถึงครึ่งปีแรกของปีถัดไป (เช่น เดือนพฤษภาคม) ส่งผลให้ตลาดซื้อขายนักเตะปิดลงในช่วงเดือนสิงหาคม และตลาดซื้อขายช่วงกลางฤดูกาลเปิดในเดือนมกราคม
ระยะเวลาจะแตกต่างกันเมื่อลีกมีการแข่งขันตลอดทั้งปีปฏิทินเดียว เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศนอร์ดิก เนื่องจากข้อจำกัดของสภาพอากาศ รวมไปถึงเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ที่ติดข้อจำกัดทั้งด้านสภาพอากาศและการแข่งขันจากกีฬายอดนิยมอื่น ๆ ในท้องถิ่น (โดยเฉพาะ บาสเก็ตบอล และอเมริกันฟุตบอล) หรือเป็นฤดูดั้งเดิมในซีกโลกใต้ โดยทั่วไปตลาดซื้อขายครั้งแรกจะเปิดตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึงช่วงค่ำของวันที่ 30 เมษายน ตามมาด้วยตลาดซื้อขายช่วงกลางฤดูกาลเปิดตั้งแต่ 1 ถึง 31 สิงหาคม
ตลาดช่วงก่อนฤดูกาล | ตลาดช่วงกลางฤดูกาล | ประเทศ |
1 มกราคม – 31 มีนาคม | 14 กรกฎาคม – 13 สิงหาคม | บราซิล |
5 มกราคม – 29 มีนาคม | 15 กรกฎาคม – 14 สิงหาคม | ญี่ปุ่น |
8 มกราคม – 31 มีนาคม | 15 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม | สวีเดน |
9 มกราคม – 1 เมษายน | 1–31 สิงหาคม | นอร์เวย์ |
7 กุมภาพันธ์ – 1 พฤษภาคม | 10 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม | สหรัฐและแคนาดา |
1 มีนาคม – 30 เมษายน | 1–31 สิงหาคม | ฟินแลนด์ |
1 มิถุนายน – 18 สิงหาคม | 1 มกราคม – 19 มกราคม | แอลเบเนีย |
1 มิถุนายน – 2 กันยายน | 2 มกราคม – 31 มกราคม | อิตาลี |
1 มิถุนายน – 2 กันยายน | 1 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ | ฝรั่งเศส,เยอรมนี,สเปน |
17 พฤษภาคม – 9 สิงหาคม | 1 มกราคม – 31 มกราคม | อังกฤษ |
9 มิถุนายน – 1 กันยายน | 1 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ | สกอตแลนด์ |
11 มิถุนายน – 1 กันยายน | 5–31 มกราคม | ตุรกี,เดนมาร์ก |
11 มิถุนายน – 2 กันยายน | 3–31 มกราคม | เนเธอร์แลนด์ |
16 มิถุนายน – 8 กันยายน | 25 มกราคม – 22 กุมภาพันธ์ | บัลแกเรียและโรมาเนีย |
17 มิถุนายน – 6 กันยายน | 28 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ | รัสเซีย |
24 กรกฎาคม – 15 ตุลาคม | 3 มกราคม – 31 มกราคม | ออสเตรเลีย |
1 ธันวาคม – 31 มกราคม | 1–30 มิถุนายน | เคนยา, ยูกันดา |
1 กรกฎาคม – 2 กันยายน | 1 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ | เบลเยียม |
1 กรกฎาคม – 22 กันยายน | 1 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ | โปรตุเกส |
1 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ | 1 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม | จีน |
5 มิถุนายน – 28 สิงหาคม | 6 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ | อิหร่าน |
26 พฤศจิกายน – 19 กุมภาพันธ์ | 24 มิถุนายน – 19 กรกฎาคม | ไทย |
สโมสรในพรีเมียร์ลีกในประเทศอังกฤษได้โหวตให้สิ้นสุดตลาดซื้อขายในวันพฤหัสก่อนเริ่มฤดูกาลวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2018 แทนที่จะเป็นวันที่ 31 สิงหาคม เนื่องจากฟีฟ่าต้องการให้ตลาดซื้อขายเปิด 12 สัปดาห์ โดยตลาดจะเปิดประมาณวันที่ 17 พฤษภาคมหลังจากเกมสุดท้ายของฤดูกาลเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมจบลง โดยสโมสรสามารถขายผู้เล่นได้จนถึง 31 สิงหาคม แต่ไม่สามารถซื้อทดแทนหลังเส้นตายวันที่ 9 สิงหาคมได้
แม้ว่าในอังกฤษการโอนย้ายผู้เล่นระหว่างสโมสรในลีกเดียวกันอาจเกิดขึ้นทันทีที่การแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาลได้เริ่มขึ้น แต่การโอนย้ายจะไม่เสร็จสมบูรณ์จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม เนื่องจากสัญญาของผู้เล่นหลายคนจะหมดอายุในวันที่ 30 มิถุนายน การโอนย้ายผู้เล่นระหว่างประเทศไปสู่ลีกอังกฤษ (รวมถึงพรีเมียร์ลีก) ไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่าตลาดจะเปิดในวันที่ 17 พฤษภาคม ในนอกตลาดซื้อขาย สโมสรอาจยังคงซื้อผู้เล่นได้ในกรณีฉุกเฉินหากไม่มีผู้รักษาประตู ข้อยกเว้นพิเศษจากหน่วยงานที่จัดการแข่งขันเช่นพรีเมียร์ลีกมีข้อจำกัดว่า ตลาดซื้อขายนักเตะไม่สามารถใช้กับสโมสรในเนชันนัลลีกหรือลีกต่ำกว่านั้นได้
หากวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เส้นตายสามารถขยายไปถึงวันจันทร์ถัดไปตามคำร้องขอของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยเหตุผลทางธุรกิจการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกของกำหนดการเริ่มตั้งแต่ในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2008 เมื่อขยายเส้นตายออกไป 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนเวลาเที่ยงคืนเส้นตายของประเทศอังกฤษได้ขยายไปถึงเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2009 เนื่องจากวันหยุดธนาคารของเดือนสิงหาคม เช่นเดียวกับเยอรมันฟุตบอลลีกที่ประกาศขยายเส้นตายไปเป็นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009
สโมสรสามารถซื้อผู้เล่นไม่มีสังกัดเมื่อใดก็ได้ในช่วงฤดูกาลแข่งขัน หากสโมสรก่อนหน้านั้นได้ปล่อยตัวผู้เล่นก่อนสิ้นสุดตลาดซื้อขาย สโมสรสามารถขอซื้อผู้เล่นในกรณีฉุกเฉินได้ เช่น หากผู้รักษาประตูหลายคนบาดเจ็บในเวลาเดียวกัน นอกตลาดซื้อขายในอังกฤษเมื่อผ่านไปเจ็ดวันหลังตลาดซื้อขายสิ้นสุดลง สโมสรจากอิงกลิชฟุตบอลลีก (ระเบียบที่ 53.3.4) และ (หากผู้เล่นไม่ได้ลงทะเบียนกับสโมสรจากลีกใด ๆ ที่ต่ำกว่าเนชันนัลลีก) เนชันนัลลีก (ระเบียบที่ 6.6.4) สามารถยืมตัวผู้เล่น 1) ได้ในครึ่งแรกของฤดูกาลจนถึง 5 โมงเย็นในวันพฤหัสที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน และ 2) ในครึ่งสองของฤดูกาลจนถึง 5 โมงเย็นในวันพฤหัสที่สี่ของเดือนมีนาคม การยืมตัวผู้เล่นสามารถขยายข้อตกลงการยืมออกไปได้ตลอดเวลานอกตลาดการซื้อขาย
วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เส้นตายของการซื้อขายนักเตะ (อังกฤษ: transfer deadline day) และมักเป็นหนึ่งในวันที่คึกคักที่สุดของตลาดซื้อขายและสร้างความวุ่นวายในการโอนย้ายผู้เล่น เพราะจำนวนการโอนย้ายซึ่งกันและกันพึ่งพาอาศัยกันจะเสร็จสมบูรณ์คล้ายห่วงโซ่ที่อยู่อาศัย ซึ่งสร้างความสนใจจากสื่อเป็นอย่างมาก
สรุปได้ว่าเราจะรับรู้จักเกี่ยวกับกฏต่างเกี่ยวกับการซื้อขายของนักเเตะเเต่ละประเทศเเละจะพูดถึงเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลว่ามีการใช่นักเเตะทั้งหมด 11 คน ผู้เล่น 11 นี้จะมีกองหลัง กองกลางเเละกองหน้ามีการพูดกฏการซื้อขายของนักเเตะว่ามีการใช่ในปีใดเเละการซื้อขายของนักเเตะฟุตบอลจะทำต้องทำอย่างไรถึงจะซื้อได้เเละมีกำหนดเท่าไหร่หากผู้ที่สนใจกีฬาต้องการข้อมูลนี้ไปเป็นความรู้สามารถบันทึกลงใน Google Drive เเละ Google Doc ผมก็หวังจะเป็นข้อมูลที่ไม่มากก็สำหรับผู้ชม
อ้างอิง
ข้อกฎหมายเด่น ฎีกาดัง.กฎกติกาสัญญาการซื้อขายของนักฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.facebook.com/266084113580924/posts/783040808551916/
ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก 2022/23 สรุปการย้ายทีม อัปเดตล่าสุด.กฎกติกาสัญญาการซื้อขายของนักฟุตบอล [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://sport.trueid.net/detail/oXdgWDgAgokG
ซื้อ-ขายนักเตะ.กฎกติกาสัญญาการซื้อขายของนักฟุตบอล.กฎกติกาสัญญาการซื้อขายของนักฟุตบอล. [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.90min.com/th/categories/transfer