พิมพ์
ประวัติกีฬายกน้ำหนัก
ประวัติกีฬายกน้ำหนัก

 

      กีฬายกน้ำหนัก ในยุคเริ่มต้นไม่ได้เป็นกีฬาสังคมในยุคโบราณคนที่มีร่างกายที่แข็งแรงพยายามแสดงออกถึงความสมบูรณ์แข็งแรงของตนและพยายามต่อสู้เพื่อให้ทราบถึงผลแพ้ชนะ วิธีการวัดความแข็งแรงในสมัยนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น การแบกลูกวัว การยกถุงทราย การยกหิน หรือการยกเหล็ก เป็นต้น รูปแบบวิธีวัดความแข็งแรงของร่างกายในแต่ละยุคแต่ละสมัยได้พัฒนารูปแบบท่าทางในการยกที่แตกต่างกันออกไป

      ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคครั้งแรกมีกีฬาประเภทใดบ้าง นอกจากการแข่งขันวิ่งที่จัดให้มีการแข่งขันขึ้น ต่อมาก็จัดให้มีการแข่งขันมวยปล้ำ การกระโดดและกีฬามวย การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศกรีก ( กรีซ) ได้พัฒนาและเจริญรุ่งโรจน์ถึงขีดสูงสุดเมื่อ 464 ปี ก่อนคริสตกาล ในขณะนั้นประเทศกรีก ( กรีซ) ได้รวมประเทศเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว และทุก ๆ เมือง ทุก ๆ ท้องถิ่น ต่างมีความประสงค์อย่างยิ่งที่จะมีแชมป์เปี้ยนโอลิมปิคในเมืองของตน การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคได้ดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่ง
มาหยุดชะงักลงเมื่อปี พ. ศ. 2459 ( ค. ศ.1916) อันเนื่องมาจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 นับเป็นอุปสรรคสำคัญในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค

     ประวัติการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักในประเทศกรีก ( กรีซ) เริ่มขึ้นเมื่อ พ. ศ.2439 ( ค. ศ.1896)เป็นครั้งแรก จัดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ ประเทศเจ้าภาพได้รับเหรียญจากการแข่งขัน กีฬายกน้ำหนัก เพียง 2 เหรียญทองแดง ( เหรียญบรอนซ์) สำหรับสหพันธ์ยกน้ำหนักของประเทศกรีซ มีชื่อเรียกว่า Hellenic Weightlifting Federation : HWF . ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อ พ. ศ.2515 ( ค. ศ. 1972) โดยรวมอยู่กับสหพันธ์ มวยปล้ำ

     การแข่งขันกีฬายกน้ำหนักในรูปแบบปัจจุบันที่ใช้บาร์เบล เริ่มในศตวรรษที่ 19 ในยุโรปตะวันตก เป็นการแสดงของบุรุษผู้ทรงพลังในโรงละครสัตว์และโรงแสดงการดนตรี เมื่อปี พ . ศ.2448 ( ค. ศ.1905) นี้เองถือว่า เป็นปีเริ่มต้นที่ก่อตั้งสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติขึ้นเป็นครั้งแรก แต่การแข่งขันก็ขาดช่วงไปหลายปี จนกระทั่งปี พ. ศ.2463 ( ค. ศ.1920) การแข่งขันกีฬายกน้ำหนักก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ โดยได้บรรจุเข้าในการ แข่งขันกีฬาโอลิมปิคอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งถึงปัจจุบันกฎเกณฑ์การแข่งขันกีฬายกน้ำหนักในระยะแรกอยู่ภายใต้
Federation International High Committee : FIHC. ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ น้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกจัดขึ้นครั้งแรกที่เมืองพิคาดิลลี่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ. ศ. 2434 ( ค. ศ.1891) มี 2 ท่า คือ

  1. ท่าเจอร์คมือเดียว (The Single hand of Jerk) 
  2. ท่าเจอร์คสองมือ (The two hands of Jerk)

    ต่อมาคณะกรรมการโอลิมปิคสากลแนะนำให้มีการแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก 4 ท่า คือ

  1. ท่าสแนทช์มือเดียว (The single hand of Snatch)
  2. ท่าคลีนแอนด์เจอร์คมือเดียว (The single hand of clean and Jerk)
  3. ท่าสแนทช์สองมือ (The two hands of snatch)
  4. ท่าคลีนแอนด์เจอร์คสองมือ (The two hands of clean and Jerk)

     ระหว่างปี พ. ศ. 2471 ( ค. ศ. 1928) พ. ศ. 2515 ( ค. ศ. 1972) คณะกรรมการสหพันธ์ ยกน้ำหนักนานาชาติได้พิจารณาลดจำนวนท่ายกให้เหลือเพียง 3 ท่า คือ

  1. ท่าเพรสสองมือ (The two hands of Press)
  2. ท่าสแนทช์สองมือ (The two hands of Snatch)
  3. ท่าคลีนแอนด์เจอร์คสองมือ (The two hands of clean and Jerk)

     ต่อมาในการประชุมสภาคองเกรสของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ( ระหว่างประเทศ) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 20 ณ เมืองมิวนิค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เมื่อปี พ. ศ.2515 ( ค. ศ.1972) มติของคณะกรรมการให้ยกเลิกท่าเพรสสองมือ เนื่องจากท่าดังกล่าวสร้างปัญหาให้แก่กรรมการตัดสินมาก และก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก หลังจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 20 พ. ศ.2515 ( ค. ศ.1972) จึงกำหนดให้มีท่ายกน้ำหนักในการแข่งขันเพียง 2 ท่า คือ

  1. ท่าสแนทช์สองมือ (The two hands of Snatch)
  2. ท่าคลีนแอนด์เจอร์คสองมือ (The two hands of clean and Jerk)



- หรือ -