กติกากีฬา
ตำแหน่งเริ่มกระโดด
ผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกตำแหน่งเริ่มกระโดดจากท่ากระโดดหลังหัวลง กระโดดหน้า หรือกลับหัวกระโดดก็ได้
ท่ากระโดดหน้า ผู้เข้าแข่งขันอาจยืนอยู่กับที่หรือวิ่งกระโดดก็ได้
ท่ายืนกระโดด ผู้เข้าแข่งขันจะยืนที่ริมขอบของกระดานกระโดดหรือแท่นกระโดด โดยยืนตรงแขนเหยียดตรงข้างลำตัว หรือชูตรงขึ้นเหนือศีรษะ การเหวี่ยงแขนจะเริ่มเมื่อการกระโดดเริ่มต้น ท่าวิ่งกระโดด การกระโดดจากท่าวิ่งกระโดด จะเริ่มเมื่อผู้เข้าแข่งขันพร้อมที่จะก้าววิ่งในก้าวแรก
การวิ่ง
ในการวิ่ง ผู้เข้าแข่งขันจะต้องวิ่งตรงตลอด และไม่ลังเล การวิ่งก่อนการกระโดดจะต้องวิ่งอย่างน้อย 4 ก้าว รวมทั้งก้าวที่เป็นท่ากระโดด ซึ่งอาจจะเป็นเท้าเดียวหรือสองเท้าก็ได้ ซึ่งการกระโดดจะต้องใช้กำลังส่งให้สูงพอสมควร และมั่นคง
ในการกระโดดจากท่ายืน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องไม่ขย่มกระดานกระโดดและการกลับหัวกระโดดต้องมีการทรงตัวที่มั่นคงในท่าตรง ส่วนการวิ่งกระโดดจากกระดานสปริงต้องกระโดดด้วยเท้าทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน แต่ถ้ากระโดดจากกระดานที่ติดแน่นอาจจะกระโดดด้วยเท้าข้างเดียวก็ได้ การตัดคะแนนเกิดจากการเสียทางทรงตัว การกระโดดใหม่ การแตะถูกปลายกระดาน กระโดดออกด้านใดด้านหนึ่งของเส้นทางกระโดด หรือการยกเท้ากระโดด 2 ข้างพร้อมกันเมื่อเตรียมจะกระโดดท่าหันหลัง
การลอยตัว
- ท่าตรง : เข่าหรือสะโพกจะต้องไม่โค้งงอ เท้าจะต้องชิดกัน และปลายเท้าเหยียดตรง
- ท่าพับเอว : สะโพกต้องโค้งงอ ขาตรง เข่าตรง และปลายเท้าเหยียดตรง
- ท่าม้วนตัว : เข่าชิด มือจับอยู่ที่ส่วนล่างของหน้าขา และปลายเท้าเหยียดตรง
- ท่าตีลังกา : ร่างกายจะต้องอยู่ในท่าเหยียดตรง เพื่อจะสามารถตีลังกาครึ่งตัวได้
- ท่ากระโดดพร้อมการบิดตัว : ในท่ากระโดดตรงที่มีการบิดตัว การบิดตัวต้องไม่ทำบนกระดานกระโดด ในท่าพับเอวที่มีการบิดตัว การบิดตัวจะทำหลังจากท่าพับเอว ส่วนในท่าตีลังกาที่มีการบิดตัว การบิดตัวจะทำขณะใดก็ได้ ซึ่งการบิดตัวต้องอยู่ภายใน 90 องศา มิฉะนั้นจะถือเป็นกระโดดเสีย
การลงสู่น้ำ
ในขณะลงสู่น้ำร่างกายจะต้องอยู่ในแนวตรงหรือเกือบตรง และปลายเท้าเหยียดตรงท่าเอาหัวลง แขนจะต้องเหยียดเหนือหัว และอยู่ในแนวเดียวกันกับร่างกาย มือจะต้องชิดติดกัน ท่าเอาเท้าลง แขนจะต้องแนบติดลำตัว และจะถือว่าสิ้นสุดการกระโดด เมื่อร่างกายทุกส่วนจมลงใต้พื้นน้ำ
การตัดสินการกระโดด
กรรมการจะพิจารณาคะแนนจากการวิ่ง ท่าออก ท่าลอยในอากาศ และท่าลงสู่น้ำ แต่จะไม่นับท่าเริ่ม
การให้คะแนน
กรรมการให้คะแนนแต่ละคน อาจจะให้เต็มคะแนนหรือครึ่งคะแนนก็ได้ การกระโดดแต่ละครั้งจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน เลขานุการจะเป็นผู้จดบันทึกคะแนนในการกระโดดแต่ละครั้ง โดยจะตัดคะแนนที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดออก เมื่อรวมคะแนนที่เหลือแล้วจึงคูณด้วยคะแนนระดับความยาก ผลลัพธ์ที่ออกมาจะถือเป็นคะแนนสำหรับการกระโดดครั้งนั้น ๆ ถ้าผู้เข้าแข่งขันกระโดดในท่าอื่น ซึ่งนอกเหนือจากท่าที่ได้ประกาศไว้ ถือว่าไม่ปฏิบัติตามระเบียบ และให้หักคะแนนสูงสุด 2 คะแนน ส่วนท่ากระโดดที่เสียไปโดยเหตุการณ์อื่น ๆ กรรมการตัดสินอาจอนุญาตให้กระโดดใหม่ได้
ผลการแข่งขัน
ผู้ชนะการแข่งขัน คือผู้ที่ทำคะแนนรวมในการกระโดดได้มากที่สุด ถ้าได้คะแนนเสมอกัน 2 คน จะตัดสินใจให้เสมอกัน