ใน football หนึ่งทีมมีผู้เล่น 11 คน เป็นมี ผู้รักษาประตู1 คน และผู้เล่นตำแหน่งอื่นอีก 10 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกัน ( กองหลัง) ผู้อยู่แดนกลาง (กองกลาง) และผู้บุก (กองหน้า) แล้วแต่ระบบแผนที่ใช้ โดยตำแหน่งเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงหน้าที่และพื้นที่ในการเล่นของตำแหน่งนั้น

โดยตอนแรกจะมีแค่ตำแหน่งกองหน้า , ฮาล์ฟแบ็ก และทรีควอเตอร์แบ็ก ช่วงแรกที่มีชื่ออย่างนี้เพราะว่า สมัยนั้นเป็นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบ 2–3–5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง การป้องกันจะมีฟุลแบ็กที่รู้จักกันในชื่อกองหลังฝั่งซ้ายและกองหลังฝั่งขวา แดนกลางจะมีเลฟต์ฮาล์ฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟและไรต์ฮาล์ฟ และในแนวบุกจะเป็นเอาต์ไซด์เลฟต์ อินไซด์เลฟต์ , กองหน้าตรงกลาง , อินไซด์ไรต์ และเอาต์ไซด์ไรต์ หลังจากนั้นรูปแบบระบบก็พัฒนาไปจนมีชื่อตำแหน่งมากมาย อย่างเมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า "ฮาล์ฟแบ็ก" ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า "กองกลาง" กับตำแหน่งที่เล่นในแดนกลางทั้งกลางสนามและริมเส้น กองกลางตัวกลางได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกกลายเป็นกองกลางตัวบุกและกองกลางตัวรับ 

ในเกมสมัยใหม่ ตำแหน่งในฟุตบอลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเหมือนรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอล ถึงอย่างนั้นนักเตะส่วนใหญ่มักเล่นในตำแหน่งเดิมตลอดการค้าแข้งของพวกเขา เพราะในแต่ล่ะตำแหน่งนั้นใช้ทักษะและความสามารถทางร่างกายไม่เหมือนกัน แต่ก็มีนักฟุตบอลบางพวกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งถึงเรียกว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์"

 

 

แผนการเล่นฟุตบอล คืออะไร?

แผนการเล่น (อังกฤษ: Formation) ในกีฬาฟุตบอล จะบ่งบอกถึงการที่ผู้เล่นในทีมจะยืนตำแหน่งใดในสนาม ซึ่งฟุตบอลเป็นเกมที่มีความยืดหยุ่นและเร็ว (ยกเว้น ผู้รักษาประตู) ผู้เล่นอาจจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ในระหว่างการแข่งขัน เช่นในรักบี้ ผู้เล่นจะไม่ยืนเป็นแถวในตำแหน่งเดิมตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การกำหนดตำแหน่งมีเพื่ออธิบายถึงผู้เล่นในตำแหน่งนั้นว่าจะเน้นการรุกหรือรับ หรือการเล่นในด้านใดด้านหนึ่งของสนาม

 

 

 

 

ในสมัยก่อน ทีมจะใช้ผู้เล่นที่เล่นเกมรุกมากกว่า แต่ในยุคปัจจุบัน แทบทุกแผนการเล่นจะมีผู้เล่นเกมรับมากกว่าเกมรุก

แผนการเล่นจะอธิบายถึงประเภทของผู้เล่น (ไม่รวมผู้รักษาประตู) เรียงตามตำแหน่งจากเกมรับไปยังเกมรุก เช่น 4–4–2 หมายถึงมีกองหลัง 4 คน, กองกลาง 4 คน และ กองหน้า 2 คน

ในอดีต หากใช้แผนการเล่นเดียวกัน อาจจะยืนตำแหน่งไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะมีผู้เล่นด้านกว้างหรือยืนตำแหน่งสูงต่ำไม่เท่ากัน แต่ในยุคปัจจุบันนั้นมีวิวัฒนาการที่มากขึ้นในการแสดงแผนการเล่นแบบใหม่ ที่จะแสดงแผนการเล่นในรูปแบบตัวเลข 4–5 ตัว เช่น 4–2–1–3 โดยกองกลางจะถูกแบ่งเป้นกองกลางตัวรับ 2 คน และตัวรุกอีก 1 คน ซึ่งแผนนี้อาจจะคล้างคลึงกันกับ 4–3–3 หรือแผนการเล่นที่แสดงตัวเลข 5 ตัว เช่น 4–1–2–1–2 โดยกองกลางจะแบ่งเป็นกองกลางตัวรับ 1 คน, ตัวกลาง 2 คน และตัวรุก 1 คน ซึ่งอาจจะคล้ายคลึงกันกับ 4–4–2 (หรือ 4–4–2 ไดมอนด์)

ระบบเลขแผนการเล่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่มีการใช้แผนการเล่น 4–2–4 ในยุค 1950

 

การเลือกใช้แผนการเล่นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับผู้เล่นที่มีอยู่ในทีมแผนการเล่นแบบแคบ (อังกฤษ: Narrow formation) เหมาะกับทีมที่มีกองกลางตัวกลางที่ดีหรือทีมที่บุกจากกลางสนามได้ดี จะใช้แผนการเล่นแบบแคบ เช่น 4–1–2–1–2 หรือ 4–3–2–1 โดยจะใช้ผู้เล่นกองกลาง 4–5 คน อย่างไรก็ดี อาจจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งฟุลแบ็ก ซึ่งแม้ว่าแผนการเล่นจะแสดงถึงกองหลัง 4 คน แต่อาจจะช่วยในการเติมเกมจากด้านกว้างของสนามเมื่อทีมกำลังทำเกมบุกได้

  • แผนการเล่นแบบกว้าง (อังกฤษ: Wide formation) เหมาะกับทีมที่มีกองหน้าและปีกที่ดี จะใช้แผนการเล่นแบบกว้าง เช่น 4–2–3–1, 3–5–2 และ 4–3–3 โดยกองหน้าและปีกจะยืนอยู่ในตำแหน่งสูง ซึ่งแผนการเล่นแบบกว้างจะทำให้การเล่นมีความหลากหลายมากขึ้นและมีผู้เล่นยืนคุมพื้นที่อยู่รอบสนาม

ทีมอาจจะทำการเปลี่ยนแผนการเล่นระหว่างเกมเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป:

  • เปลี่ยนเป็นเกมบุก เมื่อทีมกำลังถูกนำอยู่ อาจจะทำการเปลี่ยนผู้เล่นกองหลังหรือกองกลางออก แล้วเปลี่ยนกองหน้าลงมาเล่นแทน เช่น เปลี่ยนจาก 4–5–1 เป็น 4–4–2, 3–5–2 เป็น 3–4–3 หรือ 5–3–2 เป็น 4–3–3.
  • เปลี่ยนเป็นตั้งรับ เมื่อทีมกำลังนำอยู่หรือต้องการที่จะป้องกันประตู ผู้จัดการทีมอาจจะเลือกที่จะเปลี่ยนผู้เล่นในเกมรับด้วยการเปลี่ยนกองหน้าออก หรือเพิ่มตำแหน่งในกองกลาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมพื้นที่ เช่น เปลี่ยนจาก 4–4–2 เป็น 5–3–2, 3–5–2 เป็น 4–5–1 หรือ 4–4–2 เป็น 5–4–1

แผนการเล่นของทีมอาจจะไม่ใช่แผนการเล่นจริงในสนาม เช่น ทีมที่ใช้แผนการเล่น 4–3–3 สามารถเปลี่ยนเป็น 4–5–1 ได้อย่างรวดเร็วหากผู้จัดการทีมต้องการผู้เล่นไปช่วยในเกมรับมากขึ้น

 

สรุปว่าจะได้รู้จักว่าในกีฬา footballมีตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอลต้องมีทั้งหมด 11 คน โดยผู้เล่นทั้งหมดทั้ง 11 คนก็ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู กองหลัง  กองกลาง เเละกองหน้าว่าพวกคนเล่นตำเเหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่อะไรบ้างเเละมีส่วนสำคัญอย่างไรบ้างกับทีมโดยจะมีการบอกว่าเเผนเเละรูปเเบบการเล่นของกีฬาฟุตบอลโดยมีโค้ดที่เป็นจัดรูปเเบบเเผนเเละกำหนดว่าผู้เเต่ทำละตำเเหน่งเราจะรูปเเบบเเผนที่โค้ดใช่มีเเผนเเบบใดบ้างเเละมันสำคัญอย่างกับกีฬา ผมหวังว่าข้อมูลที่ผมได้เขียนลงเรื่องราวนี้จะเป็นข้อมูลไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับกีฬาหากต้องการการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้ที่ Google Chrome เเละ Internet Explore

 

อ้างอิง

เเผนการเล่น.รายอะเอียดแผนในการเล่นกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.breaker-shoes.com/รวม-5-แผนการเล่นยอดนิยมใ/

10 แผนการเล่นฟุตบอลที่พบบ่อยที่สุด.รายอะเอียดแผนในการเล่นกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://blog.cariber.co/post/10-tactical-formations

วิธีการ เล่นฟุตบอล.รายอะเอียดแผนในการเล่นกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://th.wikihow.com/เล่นฟุตบอล

 




- หรือ -



คำศัพท์กีฬา

Youtube: @siamsporttalk
สนามทุ่งทะเลหลวง
14 มิ.ย. 60
เข้าชม 716,590 ครั้ง
สนามกีฬาราชนาวี สัตหีบ  
14 มิ.ย. 60
เข้าชม 815,133 ครั้ง
สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี
14 มิ.ย. 60
เข้าชม 833,688 ครั้ง
สนามกีฬาสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร
13 มิ.ย. 60
เข้าชม 970,227 ครั้ง
PAT Stadium (แพท สเตเดี้ยม)
13 มิ.ย. 60
เข้าชม 913,076 ครั้ง
Chonburi Stadium (ชลบุรี สเตเดี้ยม)
13 มิ.ย. 60
เข้าชม 1,012,906 ครั้ง
สนามลีโอ สเตเดียม
13 มิ.ย. 60
เข้าชม 591,968 ครั้ง
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
13 มิ.ย. 60
เข้าชม 655,519 ครั้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์สนาม