กรรมการผู้ตัดสิน
คําแนะนํากรรมการเทคนิคตามาตรฐานสากล
1. คำนำ
1.1 สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติเป็นผู้ให้คําแนะนํากรรมการเทคนิคเพื่อ ต้องการให้การควบคุมเกมการแข่งขันทุก ๆ ประเทศเป็นมาตรฐานและดําเนินไปภายใต้กฎกติกา
1.2 จุดประสงค์ของคําแนะนํานี้ เพื่อชี้แจงให้กรรมการผู้ตัดสินทราบถึงวิธีการควบคุมการแข่งขันให้รัดกุมและยุติธรรมในหน้าที่ของตน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการแข่งขันได้ดําเนินไปภายใต้กฎกติกาอย่างถูกต้อง คําแนะนํานี้ยังเป็นข้อชี้แนะถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการกํากับการส่งลูก และกรรมการกำกับเส้นอีกด้วย
1.3 กรรมการเทคนิคทุกคนพึงระลึกว่า "เกมการแข่งขันเป็นของผู้เล่น"
2. กรรมการและการตัดสินใจ
2.1 กรรมการผู้ตัดสินต้องรายงานผลปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกํากับดูแลของกรรมการผู้ชี้ขาด (หรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในกรณีไม่มีกรรมการผู้ชี้ขาด)
2.2 โดยปกติกรรมการผู้ชี้ขาดเป็นผู้แต่งตั้งกรรมการกํากับการส่งลูก กรรมการผู้ชี้ขาดมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนกรรมการกํากับการส่งลูกหรือเปลี่ยนโดยกรรมการผู้ตัดสินหลังจากได้ปรึกษากรรมการผู้ชี้ขาดแล้ว
2.3 โดยปกติกรรมการผู้ชี้ขาดเป็นผู้แต่งตั้งกรรมการกํากับเส้น กรรมการผู้ชี้ขาดมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนกรรมการกํากับเส้น หรือเปลี่ยนโดยกรรมการผู้ตัดสินหลังจากได้ ปรึกษากรรมการผู้ชี้ขาดแล้ว
2.4 การตัดสินปัญหาข้อเท็จจริงของกรรมการถือว่าสิ้นสุด แต่หากกรรมการผู้ตัดสินเห็นว่ากรรมการกํากับเส้นผู้นั้นตัดสินผิดอย่างแน่นอน กรรมการผู้ตัดสินจะต้อง เปลี่ยนคําตัดสินของกรรมการกํากับเส้น ถ้าหากว่ากรรมการผู้ตัดสินเห็นสมควรต้องเปลี่ยนกรรมการกํากับเส้นให้เรียกกรรมการผู้ชี้ขาดเข้ามาเพื่อปรึกษาก่อนจะมีการเปลี่ยน
2.5 เมื่อกรรมการสนามอื่นมองไม่เห็น กรรมการผู้ตัดสินเป็นผู้ตัดสิน หากไม่สามารถตัดสินได้ให้ "เอาใหม่"
2.6 การรับผิดชอบในสนามและเหตุฉับพลันรอบสนาม เป็นหน้าที่ของกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งมีอํานาจตั้งแต่เดินเข้าสนามก่อนเริ่มการแข่งขัน จนกระทั่งออกจากสนามหลังจากจบการแข่งขัน
3. คําแนะนํากรรมการผู้ตัดสิน
3.1 ก่อนเริ่มการแข่งขัน กรรมการผู้ตัดสินจะต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
3.1.1 รับใบบันทึกคะแนนจากกรรมการผู้ชี้ขาด
3.1.2 ตรวจให้แน่ใจว่า เครื่องบอกคะแนนทํางานปกติ
3.1.3 ดูด้วยว่าเสาตาข่ายตั้งอยู่บนเส้นเขตข้างของสนามประเภทคู่ (กติกาข้อ 1.5 )
3.1.4 ตรวจดูความสูงของตาข่ายและต้องให้แน่ใจด้วยว่าไม่มีช่องว่างระหว่างปลายสุดของตาข่ายกับเสาตาข่าย
3.1.5 ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่ามีข้อบังคับว่าด้วยลูกขนไก่ถูกสิ่งกีดขวางหรือไม่
3.1.6 ตรวจดูให้แน่ด้วยว่ากรรมการกํากับการส่งลูกและกรรมการกํากับเส้นรู้หน้าที่และนั่งประจําที่ถูกต้อง (กติกาข้อ 5 และ 6)
3.1.7 ตรวจดูให้แน่ด้วยว่าลูกขนไก่ที่ได้ทดสอบแล้ว (กติกาข้อ 3) มีอยู่พร้อมและจํานวนเพียงพอสําหรับใช้ในการแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความล้าช้าระหว่างการแข่งขัน (เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของกรรมการผู้ตัดสินที่มอบหน้าที่ในข้อ 3.1.3, 3.1.4, 3.1.7 ให้กรรมการกํากับการส่งลูกที่ได้มีการแต่งตั้ง)
3.1.8 ตรวจดูเครื่องแต่งกายของนักกีฬาว่าถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยสี, การออกแบบของตัวอักษรและการโฆษณาและต้องแน่ใจว่าการฝ่าฝืนนั้นได่รับการแก้ไขแล้วในเรื่องเครื่องแต่งกาย หากตัดสินว่าผิดระเบียบ (หรือไม่แน่ใจ) ควรรายงานต่อกรรมการผู้ชี้ขาดหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อนเริ่มการแข่งขัน หรือหากไม่สามารถทําได้ให้รายงานทันทีหลังจากการแข่งขันจบลง
3.1.9 แน่ใจว่าการเสี่ยงสิทธิ์ได้ดําเนินไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้ในการเสี่ยงสิทธิ์ได้ใช้สิทธิ์ของตนเองอย่างถูกต้อง (กติกาข้อ 6) ให้บันทึกด้านที่นักกีฬาเลือกไว้ด้วย
3.1.10 ในกรณีประเภทคู่ทําเครื่องหมายไว้ที่ชื่อนักกีฬาที่เริ่มเล่นในสนามส่งลูกทั้งฝ่ายส่งและฝ่ายรับ ควรทําเช่นนี้ทุกครั้งที่เริ่มแข่งขันแต่ละเกม (การปฏิบัติดังกล่าวจะช่วยให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลาว่านักกีฬาอยู่ในสนามส่งลูกที่ถูกต้อง)
3.2 การเริ่มต้นการแข่งขันกรรมการผู้ตัดสินจะต้องประกาศโดยใช้คําประกาศตามข้อความที่ระบุไว้และให้ยื่นแขนชี้ไปทางขวาหรือซ้ายประกอบคําประกาศ
*ประเภทบุคคล
การแข่งขันเดี่ยว การแข่งขันระหว่าง ชื่อ - สกุล (สังกัด) ด้านขวา กับ ชื่อ - สกุล (สังกัด) ด้านซ้าย ชื่อเป็นฝ่ายส่ง "ศูนย์เท่า - ส่งได้"
การแข่งขันคู่ การแข่งขันระหว่าง ชื่อ - สกุล (สังกัด) และชื่อ - สกุล (สังกัด) ด้านขวา กับ ชื่อ - สกุล (สังกัด) และ ชื่อ - สกุล (สังกัด) ด้านซ้าย ชื่อ ส่งให้ ชื่อ "ศูนย์เท่า - ส่งได้"
*ประเภททีม
การแข่งขันเดี่ยว การแข่งขันระหว่าง.. (สังกัด) ด้านขวา ตัวแทนคือ ชื่อ - สกุลกับ...(สังกัด) ด้านซ้าย ตัวแทนคือ ชื่อ - สกุล..(สังกัด) เป็นฝ่ายส่ง "ศูนย์เท่า - ส่งได้"
การแข่งขันคู่ การแข่งขันระหว่าง... (สังกัด) ด้านขวา ตัวแทนคือ ชื่อ - สกุล และ ชื่อ - สกุล กับ...(สังกัด) ด้านซ้าย ตัวแทนคือ ชื่อ - สกุล และ ชื่อ - สกุล... (สังกัด) เป็นฝ่ายส่ง ชื่อ ส่งให้ชื่อ "ศูนย์เท่า - ส่งได้"
3.3 ระหว่างการแข่งขัน
3.3.1 กรรมการผู้ตัดสินจะต้อง
3.3.1.1 ใช้คําศัพท์มาตรฐานในภาคผนวก 4 ของกติกาแบดมินตัน
3.3.1.2 บันทึกและขานคะแนน โดยจะต้องขานคะแนนของผู้ส่งก่อนเสมอ
3.3.1.3 ระหว่างการส่งลูก ถ้าหากมีการแต่งตั้งกรรมการกํากับการส่งลูกให้มองดูผู้รับลูกเป็นพิเศษ และกรณีที่จําเป็นอาจจะขานเสียถ้าฝ่ายส่งลูกได้ส่งลูกไม่ถูกต้องตามกติกา
3.3.1.4 ถ้าเป็นไปได้คอยมองสภาพการทํางานของป้ายบอกคะแนน
3.3.1.5 ยกมือขวาขึ้นเหนือศีรษะเมื่อต้องการความช่วยเหลือจากกรรมการผู้ชี้ขาด
3.3.2 เมื่อฝ่ายที่แพ้ในการตีโต้และเสียสิทธิ์ในการส่งลูก (กติกาข่อ10.3.2,11.3.2) ให่ขานว่า "เปลี่ยนส่ง" ตามด่วยคะแนนของฝ่ายที่ได้ส่งลูกใหม่ถ้าจําเป็นให้ชี้มือไปยังด้านและสนามส่งลูกที่ถูกต้องของฝ่ายส่งลูก
3.3.3 คําว่า "ส่งได้" กรรมการผู้ตัดสินเท่านั้นเป็นผู้ขาน
3.3.3.1 แสดงว่า แมทช์หรือเกม หรือในเกมหลังจากการพัก หรือในเกมหลังจากเปลี่ยนข้างแล้วได้เริ่มขึ้น
3.3.3.2 แสดงว่าการเล่นได้เริ่มขึ้นหลังจากได้มีการหยุดพักชั่วคราว หรือ
3.3.3.3 แสดงว่ากรรมการผู้ตัดสินบอกให้ผู้เล่นเริ่มเล่นได้
3.3.4 การขาน "เสีย" จะขานโดยกรรมการผู้ตัดสินเมื่อมีการทําผิดเกิดขึ้น ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
3.3.4.1 การขาน "เสีย" เมื่อฝ่ายส่งส่งลูกเสีย จะขานโดยกรรมการกํากับส่งลูกตามกติกาข้อ 13.1 กรรมการผู้ตัดสินจะต้องรับรู้การขานว่า "ส่งลูกเสีย" กรรมการผู้ตัดสินจะขาน "เสีย" ฝ่ายรับลูก ตามด้วยการขานว่า "ฝ่ายรับเสีย"
3.3.4.2 การทํา "เสีย" ตามกติกาข้อ 13.1.1 ซึ่งขานหรือการให้เพียงสัญญาณโดยกรรมการกํากับเส้น (คําแนะนําข้อ 6.2 ) และ
3.3.4.3 การทํา "เสีย" ตามกติกาข้อ 13.2.1,13.2.2,13.3.2 หรือ 13.3.3 จําเป็นต้องขานเพื่อให้ผู้เล่นหรือผู้ชมได้เข้าใจ
3.3.5 ในระหว่างแต่ละเกมเมื่อมีฝ่ายทําคะแนนนําถึง 11 คะแนน ทันทีที่การตีโต้ลูกคะแนนที่11 ได้ยุติลง ให้ขาน "...คะแนน.." "..พัก.." หรือ "...เปลี่ยนส่ง..." "...คะแนน..." "...พัก..." โดยไม่ต้องคํานึงถึงการปรบมือและให้นักกีฬาพักตามกติกาข้อ 16.2.1 ต้องแน่ใจว่ากรรมการกํากับการส่งลูกกํากับดูแลการเช็ดสนามให้ระหว่างการพัก
3.3.6 ในระหว่างเกมเมื่อมีฝ่ายทําคะแนนนําถึง 11 คะแนน ให้มีการพัก ภายหลังจาก 40 วินาที ผ่านไป ให้ขานว่า "สนามที่...20 วินาที" (ขานซ้ำ) นักกีฬาพัก ในระหว่างเกมที่ 1 เกมที่ 2 และเกมที่ 3 (ภายหลังจากเปลี่ยนข้างแล้ว) ให้มีบุคคลเข้าไปพบนักกีฬาในสนามได้ฝ่ายละไม่เกิน 2 คน และต้องออกจากสนามทันทีเมื่อกรรมการผู้ตัดสินขาน 20 วินาทีการเริ่มการแข่งขันภายหลังจากการพักให้ขานคะแนนซ้ำตามด้วยคําว่า "ส่งได" แต่ถ้านักกีฬาทั้งสองฝ่ายไม่ใช้สิทธิ์ในการพักตามกติกาข้อ 16.2.1 จะอนุญาตให้เล่นต่อไปได่ทันที
3.3.7 ขอบเขตของเกม
3.3.7.1 เมื่อมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทําคะแนนถึง 20 คะแนน ให้ขานว่า "อีกแต้มเดียวเกม" หรือ "อีกแต้มเดียวจบการแข่งขัน" ในโอกาสแรกของแต่ละเกม
3.3.7.2 เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีโอกาสได้คะแนน 29 คะแนนในแต่ละเกม ให้ขานว่า "อีกแต้มเดียวเกม" หรือ "อีกแต้มเดียวจบการแข่งขัน" แล้วแต่กรณีให้ขานคะแนนของฝ่ายส่งและฝ่ายรับลูกตามด้วยขานว่า "อีกแต้มเดียวเกม" หรือ "อีกแต้มเดียวจบการแข่งขัน" ตามคําแนะนําข้อ 3.3.7.1 และ 3.3.7.2
3.3.8 เมื่อสิ้นสุดการเล่นทุกเกม ต้องขานทุกครั้งว่า "เกม" ทันทีที่การตีโต้ลูกยุติลงโดยไม่ต้องคํานึงถึงการปรบมือ ให้ปฏิบัติทํานองเดียวกันกับกรณีเริ่มการพักตามที่ได้อนุญาตไว้ในกติกาข้อ 16.2.2 หลังจบเกมที่1 ให้ขานว่า "เกมที่ 1....(ชื่อผู้เล่นหรือชื่อสังกัดในประเภททีม) เป็นฝ่ายชนะ..(คะแนน)" หลังจบเกมที่ 2 ให้ขานว่า "เกมที่ 2...(ชื่อผู้เล่นหรือชื่อสังกัดในประเภททีม) เป็นฝ่ายชนะ...(คะแนน)" "ชนะคนละเกม" (ถ้ามีการแข่งขันในเกมที่ 3) หากเป็นเกมที่ทําให้ชนะในแมทช์การแข่งขันให้ขานว่า "ผลการแข่งขัน ... (ชื่อผู้เล่นและสังกัดในประเภททีม) เป็นฝ่ายชนะ...(ประกาศคะแนนทุกเกม)"
3.3.9 ในการพักระหว่างเกมที่ 1 และเกมที่ 2 และระหว่างเกมที่ 2 และเกมที่ 3 หลังจาก 100 วินาทีผ่านไป ให้ขานว่า "สนาม...20 วินาที" (ขานซ้ำ)ในการพักระหว่าง 2 เกม หลังจากได้เปลี่ยนข้างแล้วให้มีบุคคลเข้าไปพบนักกีฬาในสนามได้ฝ่ายละไม่เกิน 2 คน และจะต้องออกจากสนามทันทีเมื่อกรรมการผู้ตัดสินขาน 20 วินาที
3.3.10 เริ่มการแข่งขันเกมที่ 2 ให้ขานว่า "เกมที่2 ศูนย์เท่า - ส่งได้" หากมีการเล่นเกมที่ 3 เริ่มการแข่งขันให้ขานว่า "เกมสุดท้ายศูนย์เท่า - ส่งได้"
3.3.11 การแข่งขันเกมที่ 3 หรือการแข่งขันเกมเดียว ให้ขานคะแนนแล้วตามด้วยคําว่า "เปลี่ยนข้าง" เมื่อเริ่มเล่นให้ขานคะแนนของฝ่ายส่งและฝ่ายรับตามด้วย "ส่งได้"
3.3.12 หลังขากการแข่งขันจบลงให้นําไปบันทึกคะแนนที่สมบูรณ์ส่งให้กรรมการผู้ชี้ขาดทันที
3.4 การกํากับเส้น
3.4.1 กรรมการผู้ตัดสิน ควรมองดูกรรมการกํากับเส้นเสมอเมื่อลูกขนไก่ตกใกล้เส้นและตกนอกเส้นเขตทุกครั้งไม่ว่าจะห่างแค่ไหน กรรมการกํากับเส้นเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจทั้งสิ้น ยกเว้น
3.4.2 ถ้ากรรมการผู้ตัดสินเห็นว่ากรรมการกํากับเส้นขานผิดอย่างแน่นอน กรรมการผู้ตัดสินจะต้องขาน "แก้ไขเป็นดี" เมื่อลูกขนไก่ตกในเขตสนาม "แก้ไขเป็นออก" เมื่อลูกขนไก่ตกนอกเขตสนาม
3.4.3 ในกรณีที่ไม่มีกรรมการกํากับเส้น หรือกรรมการกํากับเส้นมองไม่เห็น ขาน "ออก" ก่อนที่จะขานคะแนน เมื่อลูกขนไก่ตานอกเส้นเขตหรือ ให้คะแนน เมื่อลูกขนไก่ตกในเขต หรือ "เอาใหม" หากกรรมการผู้ตัดสินมองไม่เห็นเช่นกัน
3.5 ระหว่างการแข่งขัน กรรมการผู้ตัดสินจะต้องคอยดูแลและดําเนินการทันทีกับเหตุการณ์สําหรับกรณีดังต่อไปนี้
3.5.1 นักกีฬาขว้างแร็กเกตไปยังสนามของคู่แข่งขันหรือลื่นไถลลอดใต้ตาข่าย (ถือว่าผู้นั้นกีดขวางหรือรบกวนสมาธิคู่ต่อสู้) ถือว่า "เสีย" ฯลฯ ตามกติกาข้อ 13.4.2 หรือ 13.4.3 ตามลําดับ
3.5.2 ลูกขนไก่ที่ล้ำเข้ามาจากสนามอื่นไม่จําเป็นต้องตัดสินให้ "เอาใหม่" ถ้ากรรมการผู้ตัดสินเห็นว่า
3.5.2.1 นักกีฬาไม่ได้สังเกตเห็น หรือ
3.5.2.2 ไม่ได้กีดขวางหรือทําลายสมาธิของนักกีฬา
3.5.3 การตะโกนว่า "อย่าตี" "เสีย" ฯลฯ อาจจะถือว่าทําลายสมาธิคู่ต่อสู้ได้แต่การที่นักกีฬาตะโกนบอกคู่ขาซึ่งกําลังจะตีลูกไม่ถือว่าเป็นการรบกวนสมาธิคู่ต่อสู้
3.5.4 นักกีฬาออกนอกสนาม
3.5.4.1 นักกีฬาต้องไม่ออกไปนอกสนาม โดยมิได้รับอนุญาตจากกรรมการผู้ตัดสิน ยกเว้นระหว่างการพักตามกติการข้อ 16.2
3.5.4.2 ต้องเตือนนักกีฬาที่ละเมิดว่าการออกไปนอกสนามต้องได้รับอนุญาตจากกรรมการผู้ตัดสิน หากจําเป็นให้ดําเนินการตามกติกาข้อ 16.7 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไม่แร็กเกตที่วางไว้ข้างหลังนามระหว่างการตีโต้อนุญาตให้กระทําได้
3.5.4.3 ในระหว่างการแข่งขันนักกีฬาออกไปเช็ดเหงื่อและ / หรือดื่มน้ำกระทําด้วยความรวดเร็วถ้าไม่ทําให้การเล่นหยุดชะงักกรรมการผู้ตัดสินจะอนุญาตให้กระทําได้
3.5.5 การถ่วงเวลาและการพักการเล่นต้องแน่ใจว่าผู้เล่นจะไม่จงใจถ่วงเวลาหรือพักการเล่น ควรระมัดระวังการเดินรอบ ๆ สนาม หากจําเป็นจะต้องดําเนินการตามกติกาข้อ 16.7
3.5.6 การสอนจากนอกสนาม
3.5.6.1 ป้องกันไม่ให้มีการสอนจากนอกสนาม ขณะลูกอยู่ในการเล่น
3.5.6.2 ต้องมั่นใจว่า ผู้ฝึกสอนนั่งอยู่ในพื้นที่ที่กําหนดและไม่ได้ยืนอยู่ข้างสนามระหว่างการแข่งขัน ยกเว้นในช่วงที่อนุญาตให้มีการพัก ไม่มีการทําลายสมาธิหรือก่อกวนจากผู้ฝึกสอนคนหนึ่งคนใด สําหรับแมทช์การแข่งขันนั้น
3.5.6.3 ถ้ากรรมการผู้ตัดสินเห็นว่าเกมการเล่นถูกรบกวนทําให้นักกีฬาเสียสมาธิโดยผู้ฝึกสอนของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ขาน "เอาใหม" และเรียกกรรมการผู้ขาดทันทีกรรมการผู้ชี้ขาดจะเตือนเกี่ยวกับการกระทํานั้น ๆ
3.5.6.4 ถ้ามีการกระทําอีกเป็นครั้งที่สองถ้าจําเป็นกรรมการผู้ชี้ขาดอาจขอให้ผู้ฝึกสอนออกจากบริเวณสนามแข่งขัน
3.5.7 การขอเปลี่ยนลูกขนไก่
3.5.7.1 การขอเปลี่ยนลูกขนไก่ระหว่างการเล่นต้องไม่เป็นการเอาเปรียบ เมื่อผู้เล่นขอเปลี่ยนลูกขนไก่กรรมการผู้ตัดสินจะอนุญาตก็ต่อเมื่อเห็นว่าสภาพลูกขนไก่ชํารุดแล้ว
3.5.7.2 หากมีการทําลายวิถีและความเร็วของลูกขนไก่ให้เปลี่ยนลูกนั้น และกรรมการผู้ตัดสินต้องดําเนินการตามกติกาข้อ 16.7
3.5.7.3 กรรมการผู้ชี้ขาดเป็นผู้มีอํานาจตัดสินใจในการเลือกความเร็วของลูกขนไก่ที่ใช้ในการแข่งขัน ถ้านักกีฬาทั้งสองฝ่ายต้องการเปลี่ยนความเร็วของลูกขนไก่กรรมการผู้ตัดสินจะต้องเรียกกรรมการผู้ชี้ขาดทันทีและถ้าจําเป็นกรรมการผู้ชี้ขาดอาจจะให้มีการทดสอบความเร็วของลูกขนไก่ก็ได้
3.5.8 การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยระหว่างการแข่งขัน
3.5.8.1 การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยระหว่างการแข่งขันต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง และยืดหยุ่น กรรมการผู้ตัดสินต้องวินิจฉัยความรุนแรงของปัญหาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ถ้าจําเป็นให้เรียกกรรมการผู้ชี้ขาด
3.5.8.2 กรรมการผู้ชี้ขาดจะเรียกเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือบุคคลอื่น ที่เห็นว่าจําเป็นเข้าไปในสนาม แพทย์จะต้องวินิจฉัยและแนะนํานักกีฬาเกี่ยวกับความรุนแรงของการบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยถ้าเลือดออกจะต้องหยุดเกมและห้ามเลือดจนกระทั่งเลือดหยุด หรือได้ทําบาดแผลแล้ว
3.5.8.3 กรรมการผู้ชี้ขาดจะแนะนําให้กรรมการผู้ตัดสินจับเวลาและเป็นผู้บอกให้นักกีฬาเริ่มเล่นต่อไป
3.5.8.4 กรรมการผู้ตัดสินต้องมั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องไม่อยู่ในฐานะเสียเปรียบ และควรปฏิบัติด้วยความเที่ยงธรรมตามกติกาข้อ 16.4 , 16.5 , 16.6.1 และ 16.7
3.5.8.5 กรณีของการบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือมีอุปสรรคต่าง ๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได่ควรถามผู้เล่นว่า "จะถอนตัวไหม" หากตอบรับให้ขานว่า ผลการแข่งขัน...(ชื่อผู้เล่นและสังกัด หรือชื่อสังกัดในประเภททีม) เป็นฝ่ายชนะ....(คะแนน) ...ถอนตัวจากการแข่งขัน
3.5.9 โทรศัพท์เคลื่อนที่ถ้ามีเสียงโทรศัพท์ผู้เล่นดังขึ้นขณะกําลังมีการแข่งขันในสนามถือว่า ผู้เล่นคนนั้นทําความผิดตามกติกาข้อ 16.6.4 กรรมการผู้ตัดสินจะต้องดําเนินการลงโทษตามกติกาข้อ 16.7
3.5.10 ความประพฤติของนักกีฬาในสนาม
3.5.10.1 กรรมการผู้ตัดสินจะต้องแน่ใจว่าผู้เล่นทั้งสองฝ่ายทําการแข่งขันด้วยความมีน้ำใจนักกีฬา
3.5.10.2 การกระทําละเมิดใด ๆ ของผู้เล่นตามข้อบังคับที่ 4.6. ,4.10 ถึง 4.16 ของระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักกีฬา ให้ถือว่าเปํนการทําผิด ตามกติกาข้อ 16.6.4
3.6 การพักการเล่นถ้ามีการพักการเล่นให้ขานว่า "พักการเล่น" แล้วบันทึกคะแนน ผู้ส่งลูกผู้รับลูก สนามส่งลูกที่ถูกต้องและด้านของผู้เล่นเมื่อกลับมาเล่นต้องให้บันทึกระยะของการพักการเล่น ต้องแน่ใจว่าผู้เล่นกลับมายืนในตําแหน่งที่ถูกต้องและขานว่า "เตรียมตัว" แล้วจึงขานคะแนน และ "ส่งได้"
3.7 การทำผิด
3.7.1 บันทึกแล้วรายงานต่อกรรมการผู้ชี้ขาดถึงสาเหตุของการกระทำผิดและการดำเนินการที่ได้ทำไป
3.7.2 การกระทำผิดระหว่างเกม ถือเสมือนเป็นการกระทำผิดขณะที่กำลังเล่นในระหว่างเกม กรรมการผู้ตัดสินจะประกาศดำเนินการกับการทำผิดเมื่อเริ่มเกมถัดไป โดยขานตามคำแนะนำข้อ 3.3.10 ตามด้วยข้อ 3.7.3 หรือ 3.7.5 จากนั้น ขาน "คะแนน" หรือ "เปลี่ยนส่ง...คะแนน" ตามความเหมาะสม
3.7.3 หากกรรมการผู้ตัดสินต้องดำเนินการตามกติกาข้อ 16.4 , 16.5 หรือ 16.6 โดยเตือนฝ่ายที่กระทำผิด ให้เรียกผู้เล่นที่ทำผิด "มานี่" แล้วขานว่า "...(ชื่อผู้เล่น) เตือนที่กระทำผิด" ในขณะเดียวกันให้ถือใบเหลืองขึ้นเหนือศีรษะ
3.7.4 หากกรรมการผู้ตัดสินต้องดำเนินการตามกติกาข้อ 16.4 , 16.5 หรือ 16.6 โดยเตือนฝ่ายที่กระทำผิด ซึ่งได้เตือนที่กระทำผิดไปแล้ว ให้เรียกผู้เล่นที่ทำผิด "มานี่" แล้วขานว่า "...(ชื่อผู้เล่น) ตัดสิทธิ์ที่กระทำผิด" ในขณะเดียวกันให้ถือใบแดงขึ้นเหนือศีรษะ
3.7.5 เมื่อกรรมการผู้ตัดสินได้ดำเนินการกระทำผิดอย่างชัดแจ้งหรือผิดอยู่ตลอดเวลาตามกติกาข้อ 16.2 , 16.4 , 16.5 หรือ 16.6 โดยตัดสิทธิ์ผู้กระทำผิด และรายงานให้กรรมการผู้ชี้ขาดทราบทันที ในการพิจารณาตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน และกรรมการผู้ตัดสินจะต้องเรียกฝ่ายที่กระทำผิดว่า "มานี่" "...(ชื่อผู้เล่น) ตัดสิทธิ์ที่กระทำผิด" ในขณะเดียวกันให้ชูแขนขวาที่ถือใบแดงขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมทั้งเรียกกรรมการผู้ชี้ขาดเข้ามาในสนาม
3.7.6 หากกรรมการผู้ชี้ขาดพิจารณาให้ตัดสิทธิ์ผู้เล่นออกจากการแข่งขันก็จะส่งใบดำให้กรรมการผู้ตัดสิน กรรมการผู้ตัดสินจะเรียกฝ่ายที่กระทำผิดว่า "มานี่" และขานว่า "...(ชื่อผู้เล่น) ตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน" ในขณะเดียวกันให้ชูแขนขวาที่ถือใบดำขึ้นเหนือศีรษะ เมื่อผู้เล่นถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน จะถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมดสำหรับประเภทที่เหลืออยู่ในรายการนั้น
อ้างอิงจาก : กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ศึกษา : กติกาแบดมินตัน เพิ่มเติม